"Micro Blogging เกิดมาจาก
ซึ่งกำหนดว่าเขียนข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร"
*
เป็นการส่ง message ระหว่างสมาชิกที่มี connection กันด้วยระบบ RSS feed ส่งข้อความผ่านสื่อสองทาง เช่น SMS , instant message, email, Twitter's web site หรือโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นสำหรับการนี้โดยเฉพาะ ด้วยเหตุที่เขียนข้อความได้จำกัดจึงเกิดคำเรียกอีกคำว่า "micro blogging" และข้อความที่ส่งถึงกันมีศัพท์เรียกว่า "Tweets" ซึ่งเปรียบเหมือนเสียงนกร้องอยู่ตลอดเวลา ข้อความที่จะส่งนั้นต้องเป็น plain text เท่านั้นจะแทรกคำสั่งโปรแกรมอะไรไม่ได้ ยกเว้นแต่ hyperlink มายังเว็บเพจของเรา ที่สามารถใส่ไปได้ โดยระบบจะจัดการต่อให้เอง
คนที่ใช้ Twitter โดยมากเป็น blogger ทั่วไปที่ต้องการสื่อสารให้พรรคพวกได้updateแบบรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของโลก โดยเริ่มมากจากคำถามที่ว่า What are you doing? แต่ข้อเสียในการใช้งานแบบส่วนตัวเกินไปก็มีมาก เช่น การส่ง message ว่า หิวข้าว อยากกินส้มตำ อยากไปดูหนัง ไปเที่ยวกับแฟนมา ไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้ว ฯลฯ ซึ่งสร้างความรู้สึกที่น่ารำคาญกับผู้รับ Tweets ที่ไม่ได้สนิทสนมด้วย
เดิม Twitter มีจุดประสงค์สำหรับใช้สื่อสารแบบส่วนตัว และไม่เป็นทางการ จึงเต็มไปด้วยสิ่งที่คนอีกกลุ่มหนึ่งตั้งข้อรังเกียจ แต่ตอนหลังๆ คนเริ่มพยายามนำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในทางการตลาด ซึ่งนับว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลว เพราะ Twitter บริการส่ง SMS แบบ Broadcasting โดยไม่คิดค่าบริการ ตัวอย่างการนำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ก็ เช่น
ใช้ในการโฆษณาบอกกันแบบปากต่อปาก ระหว่างสมาชิกด้วยกัน
ใช้สื่อสารข้อความสั้นๆภายในองค์กร ในส่วนที่ไม่เป็นความลับ
เหมาะกับกลุ่มที่ทำงานขายงานตลาดในเครือข่ายเดียวกันจะใช้ในสื่อสารบอกความคืบหน้า update ข้อมูลกันและกัน หัวหน้าทีมที่มีผู้ติดตามมากก็จะได้ประโยชน์มากหน่อย เพราะสามารถสั่งงานได้ฉับพลันทันที รับรายงานได้ทันที
- ใช้สื่อสาร update กับผู้อ่าน กลุ่มสมาชิก ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
- ใช้เป็นช่องทางให้ความรู้ที่น่าสนใจแก่สมาชิกกลุ่ม เพิ่ม value ให้กับผู้มอบความรู้
- ใช้แสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะแบบ real time ในหมู่สมาชิก
- ใช้รณรงค์ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมเพื่อสังคม หรือ สาธารณประโยชน์กับกลุ่มสมาชิก
- สำนักข่าว สามารถใช้ส่ง headline news ให้กับสมาชิก
- บริษัท ห้างร้าน ใช้ส่งข้อความตามเทศกาล ส่งข่าวเกี่ยวกับสินค้าโปรโมชั่น
การใช้ Twitter จึงเหมือนกับการสื่อสารทางตรงของสมาชิกผู้หนึ่งกับสมาชิกกลุ่มป้าหมาย ซึ่ง connect กันในระบบ online networking ด้วยวิธี broadcasting sms
คนที่ใช้ Twitter โดยมากเป็น blogger ทั่วไปที่ต้องการสื่อสารให้พรรคพวกได้updateแบบรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของโลก โดยเริ่มมากจากคำถามที่ว่า What are you doing? แต่ข้อเสียในการใช้งานแบบส่วนตัวเกินไปก็มีมาก เช่น การส่ง message ว่า หิวข้าว อยากกินส้มตำ อยากไปดูหนัง ไปเที่ยวกับแฟนมา ไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้ว ฯลฯ ซึ่งสร้างความรู้สึกที่น่ารำคาญกับผู้รับ Tweets ที่ไม่ได้สนิทสนมด้วย
เดิม Twitter มีจุดประสงค์สำหรับใช้สื่อสารแบบส่วนตัว และไม่เป็นทางการ จึงเต็มไปด้วยสิ่งที่คนอีกกลุ่มหนึ่งตั้งข้อรังเกียจ แต่ตอนหลังๆ คนเริ่มพยายามนำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในทางการตลาด ซึ่งนับว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลว เพราะ Twitter บริการส่ง SMS แบบ Broadcasting โดยไม่คิดค่าบริการ ตัวอย่างการนำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ก็ เช่น
ใช้ในการโฆษณาบอกกันแบบปากต่อปาก ระหว่างสมาชิกด้วยกัน
ใช้สื่อสารข้อความสั้นๆภายในองค์กร ในส่วนที่ไม่เป็นความลับ
เหมาะกับกลุ่มที่ทำงานขายงานตลาดในเครือข่ายเดียวกันจะใช้ในสื่อสารบอกความคืบหน้า update ข้อมูลกันและกัน หัวหน้าทีมที่มีผู้ติดตามมากก็จะได้ประโยชน์มากหน่อย เพราะสามารถสั่งงานได้ฉับพลันทันที รับรายงานได้ทันที
- ใช้สื่อสาร update กับผู้อ่าน กลุ่มสมาชิก ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
- ใช้เป็นช่องทางให้ความรู้ที่น่าสนใจแก่สมาชิกกลุ่ม เพิ่ม value ให้กับผู้มอบความรู้
- ใช้แสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะแบบ real time ในหมู่สมาชิก
- ใช้รณรงค์ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมเพื่อสังคม หรือ สาธารณประโยชน์กับกลุ่มสมาชิก
- สำนักข่าว สามารถใช้ส่ง headline news ให้กับสมาชิก
- บริษัท ห้างร้าน ใช้ส่งข้อความตามเทศกาล ส่งข่าวเกี่ยวกับสินค้าโปรโมชั่น
การใช้ Twitter จึงเหมือนกับการสื่อสารทางตรงของสมาชิกผู้หนึ่งกับสมาชิกกลุ่มป้าหมาย ซึ่ง connect กันในระบบ online networking ด้วยวิธี broadcasting sms
*
Social Networking คืออะไร ?
Social Networking ในที่นี้หมายถึงเฉพาะที่เป็นแบบ online ที่สมัครสมาชิกกันได้ฟรีๆ แล้วก็ส่ง message ผ่านทาง instant message หรือ email ไปชักชวนคนอื่นมา connect ด้วย เมื่ออีกฝ่ายดูประวัติคนส่งแล้ว เกิดความสนใจก็ connect กลับ การได้เพื่อนแบบนี้ นอกจากจะได้รู้จักคนที่ connect กันโดยตรงแล้วยังสามารถ connect กับเพื่อนของเพื่อนนั้นได้อีกด้วย จะ connect ไปได้กี่ชั้นก็แล้วแต่ขอบเขตการบริการของผู้ให้บริการนั้น
ส่วนมากบริการทำนองนี้มักจะถูกมองไปในเรื่องของการหาคู่ โดยที่ต่างคนต่างโพสประวัติ (จริงไม่จริง มีคนดียวที่รู้ดี) รูปสวยๆ หล่อๆ ดูภูมิฐาน ไว้ก่อน คุยกันไปคุยกันมาก็กลายเป็นคู่รัก แต่งงานกันไป แต่ที่ถูกหลอกลวงน่าจะมีมากกว่า (ละมัง)
ถ้าไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ก็ต้องเลือกเครือข่ายที่ให้บริการด้านธุรกิจ เช่น ecademy.com เป็นต้น ในนั้นสมาชิกจะแสดง profile ของตนไว้ พร้อมทั้งเขียน Tag ระบุคุณสมบัติของตัวเอง ของธุรกิจ หรือของสินค้าบริการที่มานำเสนอ เมื่อคนอื่นในเครือข่าย search พบแล้วติดต่อมา ก็จะมีการ add contact พูดคุยกันทางกล่องmessageในเว็บไซต์, instant message อย่าง Skype, MSN, Yahoo หรือ email เป็นการเริ่มต้นสานความคิดและเครือข่ายทางธุรกิจ หรือต่อขาธุรกิจออกไปในกลุ่มนักธุรกิจหรือผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจ นักลงทุน นายธนาคาร นักประดิษฐ์คิดค้น คนให้คำปรึกษา ที่มาพบกันในนั้น มีการแนะนำต่อๆกัน เป็นการแสวงหาและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งถ้าทำอย่างมืออาชีพจะเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจใหม่ๆได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
ของฟรี ไม่มีในโลกฉันท์ใด บริการที่สร้างโอกาสให้กับสมาชิกก็ย่อมต้องมีการลงทุนบ้างฉันท์นั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เว็บไซต์ที่ให้บริการ social networking นี้จะมีการเก็บค่าสมาชิกตามระดับความได้เปรียบในการเข้าถึงข้อมูลของสมาชิกในกลุ่ม ยิ่ง upgrade สูงเท่าไรก็มีโอกาสได้พบปะนักธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น แถมยังมีสิทธิพิเศษ ได้รับส่วนลดในการร่วมประชุม พบปะสังสรรค์ ฟังอบรม สัมนาที่ผู้ให้บริการร่วมกับสมาชิกผู้มีคุณวุฒิที่ได้รับเชิญมาบรรยายอีกด้วย
*
ทำไมต้อง Twitter ?
คำตอบอยู่ที่ว่าจะใช้ทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร ต่างหาก ถ้าจะใช้ส่วนตัวแบบ ส่งข้อความกับเพื่อนๆ ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่ถ้าจะใช้ในเชิงธุรกิจ หรือ วิชาการ หรือเพื่อทำสิ่งที่สร้างสรรค์กับตัวเองและผู้อื่น ก็น่าจะลองพิจารณาดู
จะเลือก follow ใคร และ ใครจะมา follow เรา ?
ใครที่มีแนวความคิดที่น่าสนใจ ช่วยเติมเต็มสิ่งที่เราขาด ช่วยเพิ่มพูนสติปัญญาความรอบรู้ด้านที่เราสนใจ เป็นผู้นำทางความคิด เป็นคนรู้เท่าทันข่าวสาร ที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติอะไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราเอง อาจจะต้องการคนสนุกสนานที่จะคอย feed joke ให้เราอารมณ์ดีก็ได้
เมื่อสมัครไปแล้ว เขาจะเห็นเรา ถ้าเขาสนใจตามเรากลับมาแล้ว add เราบ้าง ก็จะกลายเป็นการสื่อสารถึงกันและกัน ต่อไปก็ต้องพยายามโปรโมทตัวเองด้วยการส่ง email ถึงเพื่อนที่เราอยากให้ใช้ Twitter เขียนบทความให้คนรู้ ทำประชาสัมพันธ์ในชุมชนออนไลน์ที่มีคนที่น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ แล้วรอดูผล ขณะเดียวกันก็ต้องเริ่ม contribute ด้วยการส่ง Tweets เมื่อทำไปสักพัก อาจจะพบกับพวกที่ชอบส่งเสียงในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ต้องมีมาตรการดูแลและจัดการด้วยเหมือนกัน เช่น ไม่สนใจ หรือ ไม่ก็พิจารณาตัดออกไปจากสาระบบของเราเสีย
ในระบบจะมีสถิติให้สมาชิกดูว่า สมาชิก follow ใครอยู่กี่คน มีคนมา follow สมาชิกกี่คน มี favourite tweets กี่ข้อความ เป็นต้น
*
ใช้ Twitter อย่างไรให้ถูกต้อง ?
Tweets ที่ส่งออกไปทั้งหมดจะปรากฎอยู่ใน profile สมาชิกและจะอยู่ต่อไปถ้าไม่มีการจัดการบ้าง และส่วนที่ยังปรากฎอยู่จะแสดงถึงลักษณะความเป็นคุณ (หรือคุณในโลกออนไลน์) อยู่อย่างนั้น ฉะนั้นจงคำนึงถีงสิ่งเหล่านี้ด้วย
- อย่าส่งเสียงน่ารำคาญ เพราะชื่อก็บอกว่าเป็น เสียงนก ดังนั้นถ้าใช้แบบ "เสียงนก เสียงกา" ก็จะไม่มีคนให้ความสนใจได้เหมือนกัน จึงควรต้องระมัดระวัง เลือกคำให้สั้น ให้เหมาะและได้ใจความ เหมือนที่คุณจะใช้หากมีโอกาสได้คุยกับประธานบริหารของธนาคารที่คุณขอกู้เงินในเวลาเพียง 30 วินาที ฉะนั้นจึงอาจต้องฝึกกันบ้าง หรือวางแผนไว้บ้าง
- อย่านิ่งเงียบไป ต้องส่งข้อความให้คนอื่นรู้ว่ายังไม่ตายไปจากโลกนี้
- ลองอะไรใหม่ๆดูบ้าง ถ้าสิ่งนั้นจะทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเองมากขึ้น (ถ้าจะคิดแบบธุรกิจ) บางทีกฎเกณฑ์ก็กลายเป็นข้อจำกัดของการประยุกต์ความคิดสร้างสรรค์ได้เหมือนกัน
- ปรับตัวให้เร็ว ถ้าสิ่งที่ทดลองทำนั้นไม่ได้ผล ก็อย่าทู่ซี้ทำต่อไป ไม่งั้นจะเกิดผลเสียตามมา เว้นแต่เชื่อมั่นว่ามันจะได้ผลแต่อาจจะยังไม่ถึงเวลา ก็อยู่ที่การตัดสินใจของตัวเอง
- อย่าใช้ Twitter เป็น SMS โต้ตอบกับใครเป็นการส่วนตัวจนดูไม่เป็นProfessional ถ้าจำเป็นก็ควรยกหูโทรศัพท์คุยหรือส่ง IM แทน
- ในกรณีที่ต้องคุยใช้ Tweet บอกใครหรือกลุ่มของใครเป็นการเฉพาะ ควรใส่เครื่องหมาย @หน้าชื่อคนนั้นๆ หรือใช้สีที่แตกต่างกัน
- เพื่อตัดปัญหาเวลาคนรับ Tweets ไม่ได้ flollow ทุกคนในกลุ่มที่เราส่ง SMS เขาจึงได้ข้อความไม่ครบ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันได้ จึงควรใช้ถ้อยคำที่ผู้อ่านสามารถจับความได้เป็นดีที่สุด หรือไม่ก็เลือกสื่อสารทางอื่นแทน
- อย่าพยายามขายอะไรใน ธweets เพราะมันจะไม่ work ลองสำรวจดู100 คำที่ไม่ควรใช้ใน email ในเรื่องนี้ก็ดีค่ะ เพราะคนทั่วไปไม่มีใครชอบจดหมายขายสินค้า หรือใช้วิธี hard sell
*Social Networking คืออะไร ?
Social Networking ในที่นี้หมายถึงเฉพาะที่เป็นแบบ online ที่สมัครสมาชิกกันได้ฟรีๆ แล้วก็ส่ง message ผ่านทาง instant message หรือ email ไปชักชวนคนอื่นมา connect ด้วย เมื่ออีกฝ่ายดูประวัติคนส่งแล้ว เกิดความสนใจก็ connect กลับ การได้เพื่อนแบบนี้ นอกจากจะได้รู้จักคนที่ connect กันโดยตรงแล้วยังสามารถ connect กับเพื่อนของเพื่อนนั้นได้อีกด้วย จะ connect ไปได้กี่ชั้นก็แล้วแต่ขอบเขตการบริการของผู้ให้บริการนั้น
ส่วนมากบริการทำนองนี้มักจะถูกมองไปในเรื่องของการหาคู่ โดยที่ต่างคนต่างโพสประวัติ (จริงไม่จริง มีคนดียวที่รู้ดี) รูปสวยๆ หล่อๆ ดูภูมิฐาน ไว้ก่อน คุยกันไปคุยกันมาก็กลายเป็นคู่รัก แต่งงานกันไป แต่ที่ถูกหลอกลวงน่าจะมีมากกว่า (ละมัง)
ถ้าไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ก็ต้องเลือกเครือข่ายที่ให้บริการด้านธุรกิจ เช่น ecademy.com เป็นต้น ในนั้นสมาชิกจะแสดง profile ของตนไว้ พร้อมทั้งเขียน Tag ระบุคุณสมบัติของตัวเอง ของธุรกิจ หรือของสินค้าบริการที่มานำเสนอ เมื่อคนอื่นในเครือข่าย search พบแล้วติดต่อมา ก็จะมีการ add contact พูดคุยกันทางกล่องmessageในเว็บไซต์, instant message อย่าง Skype, MSN, Yahoo หรือ email เป็นการเริ่มต้นสานความคิดและเครือข่ายทางธุรกิจ หรือต่อขาธุรกิจออกไปในกลุ่มนักธุรกิจหรือผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจ นักลงทุน นายธนาคาร นักประดิษฐ์คิดค้น คนให้คำปรึกษา ที่มาพบกันในนั้น มีการแนะนำต่อๆกัน เป็นการแสวงหาและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งถ้าทำอย่างมืออาชีพจะเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจใหม่ๆได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
ของฟรี ไม่มีในโลกฉันท์ใด บริการที่สร้างโอกาสให้กับสมาชิกก็ย่อมต้องมีการลงทุนบ้างฉันท์นั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เว็บไซต์ที่ให้บริการ social networking นี้จะมีการเก็บค่าสมาชิกตามระดับความได้เปรียบในการเข้าถึงข้อมูลของสมาชิกในกลุ่ม ยิ่ง upgrade สูงเท่าไรก็มีโอกาสได้พบปะนักธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น แถมยังมีสิทธิพิเศษ ได้รับส่วนลดในการร่วมประชุม พบปะสังสรรค์ ฟังอบรม สัมนาที่ผู้ให้บริการร่วมกับสมาชิกผู้มีคุณวุฒิที่ได้รับเชิญมาบรรยายอีกด้วย
*
ทำไมต้อง Twitter ?
คำตอบอยู่ที่ว่าจะใช้ทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร ต่างหาก ถ้าจะใช้ส่วนตัวแบบ ส่งข้อความกับเพื่อนๆ ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่ถ้าจะใช้ในเชิงธุรกิจ หรือ วิชาการ หรือเพื่อทำสิ่งที่สร้างสรรค์กับตัวเองและผู้อื่น ก็น่าจะลองพิจารณาดู
จะเลือก follow ใคร และ ใครจะมา follow เรา ?
ใครที่มีแนวความคิดที่น่าสนใจ ช่วยเติมเต็มสิ่งที่เราขาด ช่วยเพิ่มพูนสติปัญญาความรอบรู้ด้านที่เราสนใจ เป็นผู้นำทางความคิด เป็นคนรู้เท่าทันข่าวสาร ที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติอะไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราเอง อาจจะต้องการคนสนุกสนานที่จะคอย feed joke ให้เราอารมณ์ดีก็ได้
เมื่อสมัครไปแล้ว เขาจะเห็นเรา ถ้าเขาสนใจตามเรากลับมาแล้ว add เราบ้าง ก็จะกลายเป็นการสื่อสารถึงกันและกัน ต่อไปก็ต้องพยายามโปรโมทตัวเองด้วยการส่ง email ถึงเพื่อนที่เราอยากให้ใช้ Twitter เขียนบทความให้คนรู้ ทำประชาสัมพันธ์ในชุมชนออนไลน์ที่มีคนที่น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ แล้วรอดูผล ขณะเดียวกันก็ต้องเริ่ม contribute ด้วยการส่ง Tweets เมื่อทำไปสักพัก อาจจะพบกับพวกที่ชอบส่งเสียงในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ต้องมีมาตรการดูแลและจัดการด้วยเหมือนกัน เช่น ไม่สนใจ หรือ ไม่ก็พิจารณาตัดออกไปจากสาระบบของเราเสีย
ในระบบจะมีสถิติให้สมาชิกดูว่า สมาชิก follow ใครอยู่กี่คน มีคนมา follow สมาชิกกี่คน มี favourite tweets กี่ข้อความ เป็นต้น
*
ใช้ Twitter อย่างไรให้ถูกต้อง ?
Tweets ที่ส่งออกไปทั้งหมดจะปรากฎอยู่ใน profile สมาชิกและจะอยู่ต่อไปถ้าไม่มีการจัดการบ้าง และส่วนที่ยังปรากฎอยู่จะแสดงถึงลักษณะความเป็นคุณ (หรือคุณในโลกออนไลน์) อยู่อย่างนั้น ฉะนั้นจงคำนึงถีงสิ่งเหล่านี้ด้วย
- อย่าส่งเสียงน่ารำคาญ เพราะชื่อก็บอกว่าเป็น เสียงนก ดังนั้นถ้าใช้แบบ "เสียงนก เสียงกา" ก็จะไม่มีคนให้ความสนใจได้เหมือนกัน จึงควรต้องระมัดระวัง เลือกคำให้สั้น ให้เหมาะและได้ใจความ เหมือนที่คุณจะใช้หากมีโอกาสได้คุยกับประธานบริหารของธนาคารที่คุณขอกู้เงินในเวลาเพียง 30 วินาที ฉะนั้นจึงอาจต้องฝึกกันบ้าง หรือวางแผนไว้บ้าง
- อย่านิ่งเงียบไป ต้องส่งข้อความให้คนอื่นรู้ว่ายังไม่ตายไปจากโลกนี้
- ลองอะไรใหม่ๆดูบ้าง ถ้าสิ่งนั้นจะทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเองมากขึ้น (ถ้าจะคิดแบบธุรกิจ) บางทีกฎเกณฑ์ก็กลายเป็นข้อจำกัดของการประยุกต์ความคิดสร้างสรรค์ได้เหมือนกัน
- ปรับตัวให้เร็ว ถ้าสิ่งที่ทดลองทำนั้นไม่ได้ผล ก็อย่าทู่ซี้ทำต่อไป ไม่งั้นจะเกิดผลเสียตามมา เว้นแต่เชื่อมั่นว่ามันจะได้ผลแต่อาจจะยังไม่ถึงเวลา ก็อยู่ที่การตัดสินใจของตัวเอง
- อย่าใช้ Twitter เป็น SMS โต้ตอบกับใครเป็นการส่วนตัวจนดูไม่เป็นProfessional ถ้าจำเป็นก็ควรยกหูโทรศัพท์คุยหรือส่ง IM แทน
- ในกรณีที่ต้องคุยใช้ Tweet บอกใครหรือกลุ่มของใครเป็นการเฉพาะ ควรใส่เครื่องหมาย @หน้าชื่อคนนั้นๆ หรือใช้สีที่แตกต่างกัน
- เพื่อตัดปัญหาเวลาคนรับ Tweets ไม่ได้ flollow ทุกคนในกลุ่มที่เราส่ง SMS เขาจึงได้ข้อความไม่ครบ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันได้ จึงควรใช้ถ้อยคำที่ผู้อ่านสามารถจับความได้เป็นดีที่สุด หรือไม่ก็เลือกสื่อสารทางอื่นแทน
- อย่าพยายามขายอะไรใน ธweets เพราะมันจะไม่ work ลองสำรวจดู100 คำที่ไม่ควรใช้ใน email ในเรื่องนี้ก็ดีค่ะ เพราะคนทั่วไปไม่มีใครชอบจดหมายขายสินค้า หรือใช้วิธี hard sell
ส่ง Tweet อย่างไรดี ?
การส่งทาง email แล้วข้อความถูกส่งไปทั้งบนเว็บ และ sms ประหยัดไปได้มาก แต่ต้องใช้ program จาก lifehack.org เพื่อส่ง tweet ทาง email ใน twitter หรือจะใช้ skype หรือใช้ โปรแกรมที่เรียกว่า swype ก็ทำได้เช่นกัน
เป็นความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์กับชีวิตประจำวัน ที่เก็บเกี่ยวมาจากการอธิบายของ Caroline Middlebrook เกี่ยวกับ Twitter ซึ่งช่วยคลายข้อสงสัยไปได้มากเหมือนกันค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เห็นคนบ่นเกี่ยวกับพวก Twitter ว่าเต็มไปด้วยข้อความไร้สาระ แต่พอมีคนชี้ให้เห็นว่าถ้าเอามาใช้ให้ดีก็น่าสนใจเช่นกัน
*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น